วิธีทำลอดช่องวัดเจษฯ

เป็นลอดช่องไทยน้ำกะทิที่มีจุดเด่น ของตัวลอดช่องและมีจุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่น้ำกะทินั่นเอง ซึ่งลักษณะของตัวลอดช่องนั้นจะมีเส้นเรียวยาวนุ่มตลอดเส้นส่วนน้ำกะทินั้นจะ มีรสชาตเข้มข้นมาก และเป็นสีน้ำตาล แต่เมื่อส่วนผสมลงถ้วยโดยมี เส้นลอดช่อง น้ำกะทิ น้ำแข็ง น้ำกะทิจะแตกออกมาเป็นสีขาวเองลอดช่องวัดเจษฯนี้ได้ทำขึ้นโดยใช้สูตรการทำ แบบโบราณ จึงออกมามีรสชาตที่อร่อยและเรียกได้ว่าด้งเดิมจริงๆ ความอร่อยที่มีรสชาตเฉพาะตัวของลอดช่องวัดเจษฯนั้น จึงเป็นที่ถูกปากจากคนกลุ่มเล็กๆจนเติบโดเป็นที่รู้จักของคนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความอร่อยถูกการันตีจากคนหมู่มากจึงทำให้ได้รับการการันตีขึ้นเป็น สินค้า OTOP สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ลอดช่องวัดเจษฯ เป็นสินค้าที่เมื่อใครๆได้ลิ้มลองก็ต้องบอกว่าอร่อยแน่นอน

 ส่วนผสม (แยกเป็น 2 ส่วน)

ส่วนผสมตัวลอดช่อง
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย  (โบราณเอาข้าวเจ้ามาโม่ให้เป็นแป้งคะ)
น้ำปูนใส 5 ถ้วย
ใบเตย 10 ใบ นำมาคั้นให้ได้น้ำใบเตยข้น ๆ 1 ถ้วย

ลุยกันเลย
1. เอาแป้งข้าวเจ้ามาใส่ภาชนะ เช่น กาละมังเล็ก ๆ ใส่น้ำใบเตยคั้นลงไป ใส่น้ำปูนใสลงไปด้วย (ค่อย ๆ ใส่นะจ๊ะ โดยใส่สลับกันระหว่างน้ำใบเตยกันน้ำปูนใส) แล้วจึงค่อย ๆ นวดให้เข้ากันจนละลายกับแป้งให้เข้าหมด ต้องใจเย็น ๆ คะ ไม่งั้นแป้งจะเป็นก้อนไม่เข้ากัน
2.  กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งคะ

3.  เริ่มการกวนคะ โดยนำกะทะทอง / หม้อ  มาตั้งบนเตาไฟอ่อน ๆ เอาแป้งที่ละลายไว้แล้ว เทลงกระทะ กวนไปเรื่อย ๆ จนแป้งมีลักษณะเหนียว ข้น เข้ากันดี อย่าให้แห้งหรือเหลวจนเกินไป

4. เอากาละมังหรือภาชนะอื่น เช่นถัง อีกใบมาใส่น้ำสะอาดเตรียมเอาไว้ จากนั้นเตรียมพิมพ์ลอดช่อง สมัยโบราณใช้กะลาเจาะรู หรือให้หม้อเจาะรู คะ

5. นำแป้งที่กวนได้ที่มาใส่ลงในภาชนะหรือพิมพ์ที่เราเตรียมไว้ กดแป้งออกมาจากร่องออกมาเป็นช่วงสั้น ๆ ก็จะเป็นแป้งที่ลอดช่องลงมาสู่น้ำเย็น ทำเป็นตัวลอดช่อง

6. หากแป้งที่เทไว้หนืดเกินและไม่สามารถไหลลงมาได้แล้ว เค้าจะเอาท่อนไม้แบบในภาพมากดอีกครั้งคะเพื่อให้แป้งไหลลง (แต่ส้มไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไร ต้องขอโทษด้วยคะ^^’)


7. แป้งกวนที่ไม่สามารถกดได้แล้ว แป้งแบบนี้นำมาทานโดยใส่ถ้วยผสมกับน้ำกะทิ อร่อยแบบบ้าน ๆ จริง ๆ คะ ^

ใส่ความเห็น